วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Gray Umbrella

ร่มสีเทา



ทำไมถึงอยากเขียนถึงเพลงร่มสีเทา ลงบล็อกน่ะหรอ??

        เหตุผลอาจเป็นเพราะ....วันนี้เป็นวันธรรมดาๆ น่าเบื่อบ้าง สุขบ้าง เซงบ้าง เศร้าบ้าง เหนื่อยบ้าง ..... หลายหลายอารมณ์ และความรู้สึก แต่ทำไมต้องเป็นร่มสีเทาหรอ.... เพราะทุกความรู้สึกนี้ คือรสชาติของชิวิต เราอาจมีเรื่องกังวลใจ เรื่องที่กลัว เรื่องที่อธิบายยาก เรื่องที่เศร้าเสียใจ... แต่ของให้รู้ไว้ว่า ไม่มีความรู้สึกไหน หรือ สิ่งไหนจะอยู่กับเราตลอดไป ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปตามกฏของธรรมชาติ ... 

      บทเพลงร่มสีเทา  เป็นเพลงที่มีคนอื่นเปิดมากมาย ....ไม่เคยคิดจะเปิดฟังเป็นจริงเป็นจัง แต่แล้ววันนี้เอง เวลา 21.00 น. โดยประมาณ ในใจเกิดฮัมเพลงนี้ขึ้นมา........... ใจก็ตีความเพลงไปด้วย จากนั้น ตัดสินใจเปิดฟังในYoutube หาเนื้อเพลง และสิ่งที่ได้มาคือ ข้างล่างนี้










ฉันเฝ้าถาม ความสุขอยู่ที่ไหน ชายที่เขาเดินผ่านฉันเข้ามา 
บอกกับฉันขอร่มสักคัน แต่ว่าที่มือเขาก็มีหนึ่งคัน 
ก็แปลกใจ ท่ามกลางหยดฝนโปรยปราย 

เขาก็ถามฉันว่า อยากสุขไหม  ลองหุบร่มในมือสักพักหนึ่ง 
และเงยหน้ามองวันเวลา มองหยดน้ำที่มันกระทบตา 
ยังเปียกอยู่ใช่ไหม หรือไม่มีฝน 


บนท้องฟ้าไม่มีอะไรแน่นอน ถ้ามองจากตรงนี้ 

เดี๋ยวก็มืด แล้วก็สว่าง 
อาจจะมีฝนก่อเป็นพายุ หรือลมลอยปลิวอยู่แค่นั้น 

สุขที่เคยเดินทางตามหามานาน 


ไม่ได้ไกลที่ไหน อยู่แค่นี้เอง 


ยิ้มฉันยิ้มมากกว่าทุกครั้ง 
สุขที่ฉันตามหามาแสนนาน 
อยู่ตรงนี้ แค่เพียงเข้าใจ อย่าไปยึด 

ถือมันและกอดไว้ ก็แค่ร่มเท่านั้น เท่านั้น 


บนท้องฟ้าไม่มีอะไรแน่นอน 
ถ้ามองจากตรงนี้ 
เดี๋ยวก็มืด แล้วก็สว่าง 
อาจจะมีฝนก่อเป็นพายุ 
หรือลมลอยปลิวอยู่แค่นั้น 

สุขที่เคยเดินทางตามหามานาน 
ไม่ได้ไกลที่ไหน อยู่แค่นี้เอง 


ฉันเห็นเธอถือร่มผ่านมา เต็มไปด้วยร่องรอย 
และคราบน้ำตา ฉันได้เห็นแล้วมันปวดใจ 
ไม่ใช่เพียงแค่เธอที่ทุกข์ ฉันก็เป็นเหมือนเธอ 
เธอได้ยินไหม อยากขอให้เธอลองโยนร่มที่

ถือเอาไว้หนัก โยนมันออกไป 


บนท้องฟ้าไม่มีอะไรแน่นอน ถ้ามองจากตรงนี้ 
เดี๋ยวก็มืด แล้วก็สว่าง 
อาจจะมีฝนก่อเป็นพายุ หรือลมลอยปลิวอยู่แค่นั้น 
สุขที่เคยเดินทางตามหามานาน ไม่ได้ไกลที่ไหน 

"อย่าไปยึด อย่าไปถือ 
อย่าไปเอามากอดไว้ ก็จะไม่เสียใจ 
ตลอดชีวิต ต้องผ่านการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าใคร 
จะทุกข์ จะสุขแค่ไหน ก็อยู่ที่จะมอง"






TaSsica  11↑2↑13 (^з^)-☆

วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Kaki's Drama Day

                     คากิ....ความเปลี่ยนแปลง






    วันนี้ไปรับคากิที่บ้านเหน่ง ปกติคากิจะอยู่ที่นั่นกับครอบครัวของเหน่ง เพราะที่บ้านเหน่งมีเมสซี่ น้องหมาเพศผู้พันชิวาวา อายุ1ขวบกว่าๆ คากิอยู่บ้านเหน่งมาประมาณ2เดือนแล้ว ปัจจุบันคากิก็อายุประมาณ4เดือนแล้ว สาเหตุที่ไม่สามารถเลี้ยงคากิที่บ้านได้ก็คือพ่อไม่ให้เลี้ยง พ่อบอกให้เอาไปขายสะ!!!! ใครจะไปทำใจได้หละ ดังนั้นบ้านเหน่งจึงเป็นสถานสงเคราะห์คากิ นับแต่นั้นมา แต่ที่ต้องไปรับกลับมาเลี้ยงเองมีเหตุผลหลักๆอยู่3ประการ

1. คากิเริ่มโตเป็นสาวน้อยๆแล้ว พออายุ5เดือนก็จะสามารถออกเรือนได้ เรียกได้ว่านางจะพร้อมสำหรับการเป็นแม่พันธุ์ ประกอบกับเมสซี่เป็นหนุ่มเต็มตัว และมีความรู้สึก,ความต้องการผสมพันธุ์มาก... แน่หละ ตั้งแต่เมสซี่โตเป็นหนุ่มขึ้นมายังไม่เคยจะเสียซิงให้ตัวเมียที่มีชีวิตสักที คู่ขาของเมสซี่คือตุ๊กตาน้องเป็ดสีเหลืง...(มีรูปเมสซี่ให้ดูค่ะ) เรายังไม่ต้องการให้คากิมีลูกตอนนี้ เพราะนางยังเด็ก นางยังไม่พร้อม ให้นางได้ใช้ชีวิตชิสุห์สาวสวยให้คุ้มค่าก่อน คิดไว้สักประมาณ2ขวบ ค่อยให้ไปผสมกับตัวผู้ที่เป็นชิสุห์เหมือนกัน(คลุมถุงชนสะเลย) ก็แอบสงสารคากิกับเมสซี่นะ เพราะพวกนางก็คงต่างคนต่างเหงา 

เป็ดเหลืองที่เราทราบกันดีว่าเป็นภรรยาของเมสซี่


2.ไปอยู่บ้านเหน่งนานก็รู้สึกสำเหนียกตัวเอง และก็เกรงใจที่บ้านเหน่งมาก คากิก็เป็นเด็กดื้อ ซ่า ซน กินก็จุมาก อาหารเม็ดก็หมดเร็ว แม่เหน่งต้องซื้อตับปิ้ง เครื่องในปิ้ง หมูปิ้ง ปลาทอด มาเลี้ยงพวกนางด้วยความเอ็นดู.... นางก็อึ ก็ฉี่... ขนนางก็ร่วง

3.เหตุผลสุดท้าย ก็แม่คิดถึงลูกสาว เหนื่อยกับการขับรถไปเยี่ยมลูกทุกวัน... พอลูกไม่อยู่ กลับบ้านเหน่งที่สุรินทร์ วันเสาร์-อาทิตย์ แม่ก็คิดถึง จริงๆก็คิดถึงทั้งคากิและเมสซี่ 

        วันนี้กลับบ้านมาอยู่ด้วยกันเป็นวันแรก ซื้อส้วมสุนัขให้คากิใช้... แต่นางยังไม่ชิน นางก็คิดว่ามันคือที่นอน มานอนยิ้มร่า นอนเล่นเฟอร์บี้ (ตั้งชื่อให้ตุ๊กตาหมาน้อยที่อยู่ตรงเท้านาง) มีความสุข.. ส่วนผ้าที่จะปูให้นางนอน นางก็ฉี่รด... เรื่องแบบนี้คงต้องใช้เวลาสินะ 

ส้วมสุนัข้างในเป็นกระดาษทับด้วยตะแกงพลาสติก นางมานอนยิ้มลัลล้าบนส้วม
ช่วงบ่ายๆเลยพาคากิมานอนเล่นบนเปลหน้าบ้าน อากาศไม่ร้อน มีลมเอื่อยๆ พัดมาเบาๆ แม่กับลูกก็เผลอหลับข้างๆกัน.... บรรยากาศมันพาไปจริง เหนื่อยจังทั้งพาคากิไปฉีดวัคซีน และ ย้ายบ้านให้คากิ

เปลไม้ไผ่ใต้ร่มไม้ที่หน้าบ้าน



       ชีวิตของสองแม่ลูกจะเป็นอย่างไรน้อ คุณตายังไม่รู้ว่าแม่เอาคากิกลับมา...หึหึ ขณะที่อัพบล็อกนี้่ คากิก็นอนอยู่ข้างๆ เราสองคนแอบอยู่บนห้อง วางแผนการที่จะบอกความจริงอย่างไรดี??


      เมื่อพิมพ์มาถึง ณ จุดนี้ ผ่างงงง!!!!!!!! พ่อดิฉันเปิดประตูเข้ามา....เต็มๆ คากิที่กำลังหลับอยู่ใต้โต๊ะญี่ปุ่นก็เห่าพ่อ... 555++ ความแตก ตอนเขียนบล็อกเลยทีเดียว 


พ่อ: วันนี้ช่างเอาบิลค่าอะไหล่กับเงินทอนมาให้ไหม
โอ๋: ไม่เห็นนะ โอ๋ก็อยู่บ้านทั้งวัน (โกหกที่จริงออกไปหาหมาตอนบ่ายโมง จนถึงบ่ายสาม)
คากิ: โฮ่งๆๆๆ (เห่า พ่อเบาๆ แล้วเดินมานอนบนตักโอ๋) 
พ่อ: ตัวอะไรมาเห่าว่ะ?? หน้าบูดๆ ไปตามประสาแก
โอ๋: (หน้าเจื่อน ><*) พ่อ สร้างบ้านหมาให้หน่อยนะ เอาเศษไม้มาสร้าง
หันหน้ากลับมาพิมพ์บล็อกต่อ... พ่อเดินจากไป 555+

                                             ⊙﹏⊙∥∣°⊙﹏⊙∥∣°⊙﹏⊙∥∣°






เรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปหนอ... เฮ้อ!!!!!





เอาใจช่วยพวกเราด้วยนะคะ
TaSsica  11↑2↑13 (^з^)-☆


วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Green Tea Lover

                      ทรรศิกา นางสาวชาเขียว 


              โอ้ย แม่เจ้าพระคุณเอ๋ย ทำไมบ้านเรา เมืองเราถึงได้ ร้อน ร้อน ร้อน และ ก็ ร้อนขนาดนี้ จะออกจากบ้านก็กลัวจะผิวไหม้ ได้แต่ขลุกอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์  (ติดfacebook ก็บอกไป 55+)  วันนี้ก็เลยนึกครึ้มใจอย่างไรมิทราบ  มานั่งเปิดภาพอัลบัมเก่าๆในFACEBOOK ดูไปดูมา รู้สึกว่าเราลงรูปชาเชียวเยอะทีเดียว  ก็เลยเอามาเขียนถึงชาเขียวลงบล็อกเสียเลย จะเริ่มจากตรงไหนดีนะ...  เอาละค่ะก่อนอื่นก็อย่างที่ทราบกันเมืองไทยเรานี่ ร้อนชนิดที่เรียกได้ว่า ร้อนจัด, ร้อนตับแตก สิ่งที่เราจะใช้คลายร้อนได้ก็มี

1. พัด ---> พัดๆๆๆๆ จนเมื่อยจะหายร้อนไหม??? ไม่แนะนำเป็นอย่างยิ่ง
2. พัดลม----> เออ...ค่อยยังชั่ว ต้องเปิดไว้ทั้งวัน
3. เครื่องปรับอากาศ----> เอิ่มพอดีแอร์ที่ห้องนอนแก่ รึจะเรียกว่า แอร์กี่ คือนางเก่ามาก ใช้มาตั้งแต่เรียนประถม ขอเชิญพ่อ แม่ ที่มีจิตศรัธทา ร่วมกันสมทบทุน  "เปลี่ยนแอร์เพื่อน้องโอ๋" มา ณ ที่นี้
4. ไอติม ----> ก็ไปเลือกรื้อซื้อหากันได้ ชอบรสไหนก็ซื้อมาทาน ช่วยให้สดชื่น อารมณ์ดี แต่อาจจะมีอารมณ์เสียเล็กน้อยถึงปานกลาง ตอนที่ไอติมมันละลาย ไหลย้อน ทานไม่ทัน เหนียว เหนอะหนะ เซงกันไป...
5.อาบน้ำ----> วิธีนี้แก้ร้อนกันได้แบบชนิดเร่งด่วน แต่พออาบเสร็จ ช่วงแต่งตัว กว่าจะหาทำโน่น ทำนี่ โดยเฉพาะคุณสุภาพสตรี อย่างดิฉัน ก็เหงื่อโชกเลยค่ะ .. 
6.เครื่องดื่มดับกระหาย คลายร้อน ----> ดิฉันก็มากจะชอบซื้อเครื่องดืมเย็นๆ เช่น น้ำผลไม้สดปั่น น้ำอัดลม+น้ำแข็ง และพวกเครื่องดื่มประเภทนมปั่น...เป็นต้น แต่ที่ดิฉันโปรดปรานมากที่สุดก็เห็นจะเป็น ชาวเขียวนมสดปั่น หรือ Green Tea Frappuccino หรือ Green Tea Matcha หรือ อะไรชื่ออื่นๆ อีกมากมาย
      
    นอกเรื่องไปเยอะ  เรามานั่นคิด และ สังเกตตัวเอง ไปว่า เอ๊ะ!!! เวลาเราสั่งเครื่องดื่มตามร้านกาแฟทีไร ไม่เคยเปลี่ยนเมนูเลย ตั้งแต่เมื่อไหร่ .....คำตอบที่ได้ คือ ก็ 2-3ปี แล้วนะ ไม่ว่าจะเข้าร้านไหนๆ Starbucks เอย Amezon เอย (ความจริงก็กินแต่รถเข็นแถวบ้าน พูดให้ตัวเองดูดีเว่อร์) รสชาติก็ต่างกันไปตามราคา และ แบรนด์ แต่เราต้องยอมรับจริงๆว่า กินมาหลายปี ไม่มีที่ไหนโดนใจเท่า Starbucks กินแล้วก็เหมือนขึ้นสวรรค์... 555++ แต่ถ้าตามรถเข็น แก้วละ15-20 ก็มีแต่สีเขียวกับรสหวาน ซึ่งมันไม่ใช่อ่ะค่ะ.... แต่ก็ยังดื่มอยู่ดี ตามฐานะทางบ้าน  ไม่รู้จะเขียนอะไรต่อแล้ว... ลงถาพยืนยันความเป็นชาเขียวFC ไปเลยแล้วกัน     (●*∩_∩*●)



ภาพบางส่วนที่ถ่ายไว้ตามร้านที่ดูดี... แก้วละ15 ดิฉันก็ไม่ได้ถ่ายเก็บไว้หรอกค่ะ 



ขอลากันไปแต่เพียงเท่านี้ราตรีสวัสดิ์ค่ะพี่น้องชาวไทย ( นั่นมันของรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย)




                                                    TaSsica  2↑2↑13 (^з^)-☆




วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

DREAMCATCHER

                  
              DREAMCATCHER 


My Dreamcatcher which I got From ChiangMai.


      เคยถามตัวเองเสมอว่า เราอยากจะทำอะไรกันแน่ในชีวิตนี้ ก็ได้แต่ถามตัวเองทุกวัน ไม่เคยได้คำตอบอะไร ย้อนกลับไปตอนเป็นเด็ก ทำไมเวลามีคนถามว่า " โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไร ? " ทำไมเราตอบได้อย่างรวดเร็ว แทบไม่ต้องคิดเลยทีเดียว มิหนำซ้ำคำตอบที่ได้ตอบไปก็หลากหลาย เปลี่ยนไปได้ทุกที่ ทุกเวลา ทุกสถานการณ์...  แต่ทำไมวันนี้ เป็นวัยผู้ใหญ่แล้ว ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ ไม่รู้เลยว่าตัวเองฝันอยากเป็นอะไร ชอบอะไร ทำงานอะไรแล้วมีจะความสุข เห้อออ..... เครียด (อ่าว สะง้านเลย!!!) 

         ทุกวันนี้ก็เรียกตัวเองว่าเป็น Day Dreamer คือ อีนางช่างฝันกลางวัน มีแต่คิดเพ้อฝันไป แต่ไม่เคยกล้าลุกขึ้นมาทำอะไรจริงๆจังๆ เคยคิดว่าตัวเองชอบสิ่งๆหนึ่งมาก เป็นความฝันสูงสุดของชีวิตแต่มันไม่มีทางเป็นจริงแล้ว มันจบไปแล้ว ความฝันนั้นไม่มีทางย้อนกลับมาได้แล้ว และยิ่งกว่านั้น ตัวเราไม่มีความฝันอันใหม่...!! ชีวิตตอนนี้ไร้เป้าหมาย ดำเนินไปแบบล่องลอย 

         เราจะได้เจอไหม ความฝันอันใหม่ สิ่งที่รัก สิ่งที่อยากทำ ที่ทำแล้วจะมีความสุข หรือ จะมีเพียงแต่ สิ่งที่ต้องทำ สิ่งที่ควรทำ สิ่งที่ต้องทำใจให้ชิน 

   วัยเบญจเพสก็ใกล้เข้ามาแล้วหนอ  สงสัยต้องใช้ตาข่ายมาช่วยดักความฝันไว้เสียแล้ว....

                                                                                   TaSsica  1↑2↑13 (^з^)-☆